วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บทความเกี่ยวกับความรัก ความผูกพัน

อยากลืม หมายถึง ไม่มีวันลืม

ลองได้ยินใครพูดว่า

" อยากลืม "
" ฉันอยากลืมเขาให้ได้ "
" ฉันจะพยายามลืมเขาให้ได้ "
" ฉันจะพยายามลืมมัน"
เชื่อมั่นได้ 100% ว่า เขาคนนั้น
หรือ เรื่องราวเหล่านั้น " ไม่มีวันลืม "



คนเราลองจำเรื่องอะไรเข้าไปไว้ในหัวสมองแล้ว

แสดงว่า...มันคงเป็นที่สุดในชีวิต...หรือไม่ มันก็คง
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต
ลืมยาก...เลยอยากลืม



ไอ้ที่อยากลืม...ก็คงเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่...
คิดทีไรก็เศร้า
ทำให้คิดถึงคนที่ไม่อยากคิดถึง...

คิดถึงเรื่องที่ไม่อยากจำ



           
เราล้างสมอง...หรือทำลายความทรงจำยาก
แต่เราสร้างความทรงจำใหม่ๆ ได้ไม่ยาก
ลองทำให้ทุกวันต่อจากนี้ไป...ดีที่สุด...
เท่าที่เราจะทำได้
เพราะยังไงๆ วันนี้...ก็ต้องกลายเป็น "เมื่อวาน"
ของวันพรุ่งนี้อยู่วันยังค่ำ



ถ้าใครบอกว่า " ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"
             
คงต้องขอแถมท้ายเข้าไปอีกว่า
                     
" ทำ วัน นี้ ให้ ดี สำหรับวันพรุ่งนี้ ให้วันนี้กลายเป็น วัน วาน ที่ ดี  "

                                             
เพราะเมื่อไหร่ที่   "จำไปแล้ว"


จำ ไว้ เลย ว่า  .  .  .  .  .   ไม่ มี วัน ลืม  .  .  .  .


เม็ดทรายของนาฬีกาทราย


ชีวิตคนเราเหมือนดั่งเม็ดทรายเล็กๆ ในนาฬิกาทรายที่ไหลรินไม่สิ้นสุด ตัวอย่างเม็ดทรายของนาฬิกาทรายประหนึ่งดั่งทุกๆความรู้สึกทุกๆเรื่องราวของ คนเรา ย่อมไม่อยู่กับที่มีการร่วงหล่นและกลับคืน มีสุขได้เพียงชั่วลมพัดผ่านสักพักทุกข์ก็เข้ามาทัก ดีใจได้เสียใจก็รออยู่ สมหวังได้ผิดหวังตามมาดั่งเงา ต่างกันแค่เพียงช่วงเวลาแห่งการหมุนเวียนของหัวใจในแต่ละคน


บางครั้งในบางคนความสุขมาเพียงเพื่อรอคอยความทุกข์มาสลับสับเปลื่ยนเท่านั้น และบางทีในบางคน  มีทุกข์จนลืมว่าความสุขเป็นเช่นไรในหัวใจ อาจจะเป็นเพราะว่านาฬิกาทรายของแต่ละคนแต่ละความรู้สึกที่แตกต่างกัน เวลาแห่งการสับเปลื่ยนย่อมที่จะหมุนเวียนช้าเร็วไม่เท่ากัน

แม้ความรู้สึกของแต่ละคนจะถือกำเนิดมาจากทรายในกาลเวลาเช่นเดียวกัน แต่ในความรู้สึกของบางคนเป็นได้แค่เพียงเม็ดทรายที่ร่วงหล่นและจมหาย ประหนึ่งดั่งแฝงตัวอยู่ใต้นาฬิกาทราย ไม่ได้มีโอกาสกลับมาสลับหมุนเวียนดั่งเช่นเม็ดอื่น อาจจะเป็นเพราะว่าทรายเม็ดนั้นกลัวที่จะหมุนเวียนขึ้นมาเจอกับสิ่งเดิมๆ ความรู้สึกเดิมๆและยอมทำตัวเองให้เป็นดั่งเม็ดทรายที่จมอยู่ใต้นาฬิกาทราย ของหัวใจตน


ในขณะที่บางคนเป็นเม็ดทรายที่ถูกหล่อหลอมด้วยความรู้สึก แห่งความทรงจำที่เจ็บปวด ให้เป็นเม็ดทรายแห่งความหวัง ไม่ว่าจะหมุนเวียนขึ้นลงอยู่กี่ครั้งก็พร้อมที่จะสู้โดยไม่ท้อ การที่ต้องเจ็บปวดซ้ำๆกับเรื่องเดิมๆ เส้นทางที่ผ่านมาย่อมทิ้งหนทางแห่งวันใหม่ให้คุณเสมอ เพียงแต่คุณมองเห็นและนำมาใช้ได้แค่ไหนในหัวใจของคุณ

และคำตอบของเม็ด ทรายเม็ดนั้นก็ย่อมต้องรู้คุณค่ากับสิ่งที่กาลเวลาเดินผ่านทิ้งไว้ให้ เมื่อรู้คุณค่าและที่มาของชีวิตอย่างถ่องแท้แล้ว ก็ย่อมต้องรู้จักรักทรายเม็ดอื่นๆในความรู้สึกของหัวใจตน เวลาที่ผ่านไปไม่หวนคืนมาไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวังแค่ไหน ไม่ว่าจะเร็วหรือนานเพียงไร ไม่ว่าจะเจ็บหรือช้ำเพียงใด และไม่ว่าผลลัพท์จะเป็นอย่างไร ทุกๆสรรพสิ่งยังคงเป็นเช่นนั้นเสมอๆ ผ่านเข้ามาเพื่อให้คุณเรียนรู้ เพื่อที่จะก้าวผ่านมันไปมิใช่ให้จมอยู่กับสิ่งที่ผ่านเข้ามาและมองไม่เห็น วันใหม่ในหัวใจ

ทุกๆความเจ็บที่ผ่านเข้ามาประหนึ่งดั่งฝังเป็นตะกอนแห่ง ความหลังแห่งห้วงอดีตกาล ไร้หนทางที่จะเปลี่ยนอะไร ไม่มีใครที่จะย้อนเวลาคืนกลับไปเพื่อจะแก้ไขเรื่องในอดีตได้ ทุกๆเรื่องราวที่เคยเจ็บช้ำ ไม่มีใครที่จะรั้งเวลาหรือหยุดเพื่อจะกลับไปแก้ไขมันได้ ทุกๆสิ่งที่ผ่านเข้ามาเพียงเพื่อจะผ่านออกไปตามท่วงทำนองแห่งวันวาน


คุณคงทำได้แค่เพียงเก็บเกี่ยววันเวลาที่ดีๆของทุกๆสิ่งในหัวใจ และสิ่งที่เป็นทุกๆความเจ็บช้ำ ก็ปล่อยให้มันร่วงหล่นไปตามกาลเวลา รอเพียงแค่เวลาที่ทรายเม็ดนั้นกลับคืนมาและนำสิ่งที่เคยทำให้เม็ดทรายเม็ด นั้นร่วงหล่นลงไป มาเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่กับมัน หาไม่แล้วมันคงเป็นได้แค่เพียง เม็ดทรายที่ไร้ค่า....ในหัวใจคุณ
“ร่องรอยความร้าวรานแห่งอดีตทำให้คุณนั้นเจ็บ แต่มันจะเจ็บยิ่งกว่าถ้าเป็นการเจ็บ..แล้วไม่จำ”

คํากลอน – คติสอนใจ

      เข้มแข็งเอาไว้
  อย่าตื่นกลัวกับลมพายุ อย่าท้ออแท้เมื่อเจอกําแพงขวางกั้น 
          จงดีใจเถิดเมื่อเจออุปสรรคแบบนี้ เพราะทุกอย่างคือด่านทดสอบ
  ว่าเราจะไปถึงสิ่งที่หวังได้หรือไม่ อยากให้เธอลุกขึ้นอีกครั้ง
  ด้วยพลังทั้งหมดที่มี พร้อมแรงใจจากฉัน วันนั้นอาจร้องไห้
ท้องฟ้าดูหม่นหมอง แต่น้ําตาไม่อาจไหลตลอดเวลา เมฆ 
หมอกแห่งความเศร้า จะถูกพัดผ่านไปในไม่ช้า เก็บความ
       ผิดพลาดไว้เป็นบทเรียนเพื่อวันข้างหน้าจะก้าวไปอย่างมั่นคง

อย่าอวดเก่ง
ชาติคางคกผงกหัวว่าตัวเก่ง
อึ่งอ่างเบ่งเก่งกล้าจึงอาสัญ
ผู้รู้น้อยคอยอวดเบ่งเก่งสําคัญ
นักปราชญ์นั้นไม่เบ่งเพราะเก่งจริง

ความหวังของพ่อ- แม่
เมื่อแก่เฒ่า  หมายเจ้า    ช่วยรับใช้
ยามป่วยไข้   หมายเจ้า    เฝ้ารักษา
ครั้งเมื่อถึง       คราตาย     วายชีวา
หวังให้เจ้า   ช่วยปิดตา   คราสิ้นใจ

ความตาย
ความตายหรือคือสิ่งที่ถาวร     โลกดุจฉากละครเรื่องโขนหนัง
สรรพสิ่งจึงล้วนอนิจจัง    ใยจะยังหลงใหลในละคร
รื่นรมย์ยศศักดิ์ตําแหน่งใด    ล้ําเลิศก้าวไกลหรือกลับหย่อน
อํานาจศักดินาเรืองขจร     ไฉนเชิงตะกอนจึงรอคอย
ตําแหน่งสนองคุณแก่สังคม     โลกล้วนแต่นิยมเนื้อถ้อย
เกียรติคุณประหนึ่งว่าวที่ล่องลอย   ถึงสูงสุดสอยยังต่ําลง

บุญ
บุญเป็นที่พึงถึงชาติหน้า
บุญนําพาเป็นสุขทุกสถาน
บุญเป็นหลักถึงมรรคผลนิพพาน
บุญบันดาลสารพัดสวัสดีฯ

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประวัติการศึกษา

  • จบชั้นประถมชั้นปีที่ 1-6 จากโรงเรียนบ้านแม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
  • จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นชั้นปีที่ 1-3  จากโรงเรียนบ้านแม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
  • จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายชั้นปีที่ 4-6 จากโรงเรียนกาวิละวิทยาลัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เอกคหกรรมศาสตร์ (อาหารและโภชนาการ) สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี